ใช้นิ้วบ่อยๆ เสี่ยงเป็นนิ้วล็อกแบบไม่รู้ตัว

คนทำงานอาจรู้สึกว่าการทำงานของนิ้วเราไม่เหมือนเดิม ทั้งอาการปวด ทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ตามต้องการ รู้สึกว่าการงอนิ้ว เกิดเสียงลั่นขึ้นบ่อยๆ คล้ายสปริงและมีอาการเจ็บมากจนไม่สามารถขยับงอหรือเคลื่อนไหวได้ โดยเฉพาะตอนที่เปิดavซับไทยดู ลักษณะอาการนี้เราเรียกภาวะนี้ว่าผู้ป่วยเป็นโรคนิ้วล็อก

สาเหตุของโรคนิ้วล็อก
โรคนิ้วล็อกเกิดมาจากกล้ามเรื้อขยับมากเกินไป จากการทำงานบ้าน การเล่นกีฬาแม้แต่คนทำงานนั่งโต๊ะ รวมไปถึงการเล่นเล่นมือถือ เล่นแอพต่างๆที่ต้องขยับนิ้ว งอนิ้ว เป็นระยะเวลาต่อเนื่องกันนานๆ เช่น ตอนดูavซับไทย หรือการช่วยตัวเองไปพร้อมกับavซับไทยจนร่างกายเกร็ง

สัญญาณอันตรายอาการของโรคนิ้วล็อก
นั้นเกิดจากปลอกหุ้มเอ็นที่ใช้ในการขยับนิ้วมีเกิดอาการอักเสบโดยอาการของนิ้วล็อกมี 4 ระยะ ดังนี้
ระยะ 1 เริ่มเเรกผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บปวดตรงบริเวณส่วนโคนนิ้วนั้นๆ
ระยะที่ 2 มีความรู้สึกว่าการงอนิ้ว เหยียดนิ้วสะดุดโดยจะคล้ายสปริงที่จะดีดอย่างรวดเร็วพร้อมกับอาการปวดอย่างมากในขณะที่ขยับนิ้วจนไม่สามารถดูavซับไทยจนจบ
ระยะ3 ไม่สามารถที่จะเหยียดนิ้วเองได้ ต้องใช้นิ้วอื่นช่วยยืด
ระยะ 4 มีอาการเจ็บปวดรุนเเรงไม่สามารถทำการงอนิ้วนั้นได้อีก

วิธีการป้องกันโรคนิ้วล็อก
เเช่มือในน้ำอุ่น งอนิ้ว เหยียดนิ้วให้สุดโดยทำเบาๆ บริหารนิ้วมือเง่ายๆ ทุกวัน
พักการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เมื่อนิ้วมือเรื่มมีอาการล้า หลีกเลี่ยงถือของหนัก การกำมือเเน่นๆ เช่น บิดผ้า การตีกล์อฟ การตีเทนนิสเป็นต้น

การตรวจรักษาโรคนิ้วล็อก
เมื่อมีอากาดังกล่าวควรมาพบเเพทย์เพื่อจะได้รับการตรวจวินิจฉัยรับการรักษาให้เหมาะสมถูกวิธีเพื่อไม่ให้การดำเนินของโรครุนเเรงจนเกินไปทำให้บั่นทอนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เมื่อเเพทย์ได้ทำการวินิจฉัยเเล้วจะเเบ่งการรักษาออกตามความรุนเเรงของอาการ

การกินยาเเก้อักเสบ
– การประคบร้อน กายทำภาพบำบัด หรือการดามนิ้ว
-การฉีดยาสเตียรอยด์ที่ปลอกหุ้นเอ็น
หากยังไม่ตอบสนองต่อการรักษา การรักษาลำดับต่อไปคือการผ่าตัดมีทางเลือก ดังต่อนี้ คือการเจาะรูโดยใช้เข็มเพื่ิทำการเปิดปลอกหุ้มเอ็นคือการผ่าตัดแผลเล็กใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กแผลจะเท่ากับขนาดของรูเข็มและผู้ป่วยฟื้นตัวไว
การผ่าตัดเปิดปลอกหุ้มเอ็น เป็นวิธีมาตรฐานเปิดแผลขนาด 3-6 มม. เพื่อทำการตัดพังผืดที่กดหุ้มเส้นเอ็นซึ่งผู้ป่วยจะสามารถกลับไปทำงานได้ปกติทันทีหลังจากผ่าตัด การรักษาวิธีการก็ความเหมาะสมกับผู้ป่วยก็จะเเตกต่างกันออกไป แพทย์เฉพาะทางจะให้คำปรึกษาโดยเเจ้งรายละเอียด ข้อดีข้อเสียของการรักษาเเละร่วมตัดสินใจไปพร้อมกับผู้ป่วยด้วย